ศิลปะแต่ละรูปแบบ พร้อมความหมายให้คุณเข้าใจสายอาร์ต การเสพผลงานศิลปะเราสามารถทำได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส การได้ยิน การได้กลิ่น การมองเห็นหรือแม้แต่การลิ้มรส พูดง่ายๆ ก็คือเราสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดในการเสพงานศิลป์ได้
ความหมายสั้นๆ ของคำว่าทัศนศิลป์ก็คือ การรับรู้ชื่นชมผลงานศิลปะผ่านทางสายตา นั่นหมายความว่าต้องเป็นศิลปะที่มองเห็นได้ แต่แค่มองเห็นว่าผลงานนั้นมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เราก็ยังไม่อาจเรียกว่าเป็นทัศนศิลป์ที่แท้จริงได้

ต้องเป็นการมองเห็นแล้วต่อด้วยการรับรู้ถึงความรู้สึก อิ่มเอมไปกับเส้นสาย แสงเงา และผิวสัมผัส ซึ่งงานศิลปะที่จะใช้กับการเสพแบบทัศนศิลป์ได้ก็มีทั้งแบบที่เป็น 2 มิติ และ 3 มิติ
ศิลปะแต่ละรูปแบบ
คำว่า “ศิลปะ” มันมีความหมายค่อนข้างกว้างขวางมาก ไม่อาจระบุขอบเขตเป็นกรอบชัดเจนได้ว่าอะไรคืองานศิลปะบาง มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจของผู้สร้างสรรค์ผลงาน ความหมายแฝงที่อยู่ในผลงาน มุมมองของผู้เสพ อย่างเช่น อาหารจานหนึ่ง จะมองว่าเป็นเพียงปัจจัยสี่สำหรับการดำรงชีวิตอยู่ก็ได้ หรือจะมองให้เป็นงานศิลปะก็ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นถ้าแบ่งตามรายละเอียดปลีกย่อยในชิ้นงานศิลปะ เราคงจะได้ประเภทงานศิลป์เป็นล้านๆ แบบ แต่ถ้าจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ที่มีความเชื่อมโยงคล้ายๆ กัน เราจะแบ่งได้ 7 แขนงดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็น 7 แขนงที่สามารถเสพในลักษณะของทัศนศิลป์
ศิลปะร่วมสมัย Kawaii Pop ลัทธิแห่งความน่ารัก วัฒนธรรมคาวาอี้ของญี่ปุ่นเข้าสู่ศัพท์ artworld ทั่วโลกในช่วงต้นทศวรรษ 2000 แต่เป็นสุนทรียศาสตร์ที่พัฒนามานานหลายทศวรรษ จากรากฐานของวัฒนธรรมความงามย่อยไปจนถึงปรากฏการณ์ระดับโลก

งานศิลปะทั้ง 7 แขนง
- จิตรกรรม เป็นภาพวาดเขียนที่จะระบายสีหรือไม่ก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วงานจิตรกรรมจะสื่อสารได้ค่อนข้างง่าย มีแก่นแท้ที่แสดงออกชัดเจน
- ประติมากรรม เป็นงานปั้นขึ้นรูปแบบ 3 มิติ สามารถมองเห็นได้รอบด้าน โดยสามารถใช้วัสดุในการขึ้นรูปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโลหะ งานไม้ งานปูน หรืองานวัสดุชนิดอื่นๆ
- สถาปัตยกรรม เป็นงานก่อสร้างที่ให้ความสำคัญกับศาสตร์ทางศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ ความสวยงามที่มาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอย ความสมบูรณ์ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย เป็นงานศิลป์ที่แสดงออกถึงแนวคิดสร้างสรรค์อย่างมากแต่ก็ยังอ้างอิงหลักความเป็นไปได้อยู่ด้วย
- ภาพพิมพ์ เป็นงานแบบ 2 มิติคล้ายกับจิตรกรรม แต่จะต้องมีแม่พิมพ์ที่แต้มสีแล้วกดลงบนกระดาษให้เป็นแพทเทิร์นแบบต่างๆ
- ภาพถ่าย นี่เป็นงานศิลปะที่ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้สร้างสรรค์ผลงานเป็นหลัก เพราะกล้องถ่ายรูปเป็นอุปกรณ์ที่มีแนวทาง เทคนิคในการใช้งานชัดเจน หากฝึกใช้บ่อยๆ ก็สามารถถ่ายรูปคุณภาพดีได้เหมือนกันหมด จะต่างกันก็ตรงที่ใครมีมุมมองอันเฉียบแหลมมากกว่ากันเท่านั้น
- วรรณกรรม งานเขียนหรืองานประพันธ์ก็ถือเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่น่าสนใจ มันสามารถสื่อสารถึงแนวคิด อารยธรรม วัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และอัตลักษณ์ของศิลปินได้อย่างชัดเจน ผู้เสพเข้าถึงได้ง่ายกว่าศิลปะแขนงอื่นๆ
- งานสื่อผสม เป็นการนำศิลปะในแขนงอื่นๆ มาผสมผสานให้เกิดเป็นผลงานชิ้นใหม่ เช่น เอาจิตรกรรมมาผสมกับประติมากรรรม ภาพพิมพ์ เอาภาพถ่ายมาผสมกับประติมากรรม เป็นต้น งานสื่อผสมมีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมให้ศิลปินสามารถใช้ความคิดนอกกรอบได้มาก แต่ก็สร้างความสมดุลขององค์ประกอบศิลป์ได้ไม่ง่ายเหมือนกัน
เปิดประวัติศิลปินระดับโลก ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน! ในปัจจุบันโลกของเรานั้นมีผลงานศิลปะมากมาย และมีความเจริญก้าวหน้าด้านศิลปะทั้งประติมากรรม จิตรกรรม และสถาปัตยกรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน